ค่า CD4 กับ Viral load มีความสัมพันธ์กันอย่างไร
(APCOcap กระตุ้น Killer T cell)
เชื้อHIV (เป็นไวรัส) เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะเจาะเข้าไปในเม็ดเลือดขาวภูมิคุ้มกัน มีการก๊อบปี้ตัวเองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุด แล้วเพิ่มจำนวนใน CD4 จนทำลาย CD4 นั้น ซึ่งเม็ดเลือดขาวเองก็ต้องพยายามต่อสู้กับเชื้อHIV แต่ในขณะเดียวกันถ้าร่างกายเราไม่แข็งแรงเม็ดเลือดขาวแพ้ ก็เท่ากับว่าเราเสียจำนวนทหารไป นั่นก็หมายถึงว่า ค่า CD4 จะลดลงไป(เพราะ HIV จาก CD4 ที่ถูกทำลาย จะเจาะเข้าไปยัง CD4 เซลล์ใหม่ และทำลาย CD4 ใหม่ต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ)
" CD4 ลดลง ปริมาณ Viral Load เพิ่มขึ้น " เมื่อมีเชื้อเอชไอวี( HIV) อยู่ในร่างกายนานๆ เชื้อไวรัสจะแพร่กระจายมากขึ้น
ค่า VL หรือ Viral load คืออะไร
คือ จำนวนเชื้อไวรัสเอชไอวี( HIV) ในเลือด 1 มิลลิลิตร (Cells/cu.mm) เมื่อไหร่ที่ปริมาณของเชื้อเอชไอวีในเลือด เหลือน้อยกว่า 50 ตัว (ก๊อปปี้) ต่อ 1 มิลลิลิตรของเลือด ทางการแพทย์จะเรียกว่า เป็นสถานการณ์ "ควบคุมไวรัสได้" เป็นการควบคุมไม่ให้เชื้อไวรัสก๊อบปี้ตัวเพิ่ม นั่นแสดงว่า เชื้อ เอชไอวี (HIV) ในกระแสเลือด และของเหลวในร่างกายมีน้อยมากแล้วนั่นเอง
เมื่อไหร่ที่มีเชื้อ เอชไอวี(HIV)ในเลือดสูง แสดงว่า ยาที่ผู้ติดเชื้อกิน ไม่สามารถควขคุมเชื้อไวรัสเอชไอวีได้ (มีการก๊อบปี้ตัวเพิ่มขึ้น) เพราะว่ายิ่งมีเชื้อเอชไอวี(HIV) ในร่างกายมากก็ยิ่งทำให้ จำนวนของ CD4 ลดลง จึงทำให้เกิดการติดเชื้อฉวยโอกาสได้ง่ายขึ้น
ผู้ที่ติดเชื้อHIV จึงจำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง หรือตลอดไป เพื่อกันไม่ให้เชื้อไวรัสในร่างกายมีปริมาณเพิ่มจนมากกว่า 50 ตัว / มิลลิลิตร แต่ในปัจจุบันมีอีกหลายช่องทางเพื่อช่วยในการลดปริมาณเชื้อเอชไอวีในร่างกาย และ ช่วยเพิ่ม CD4
CD4 คืออะไร
งานวิจัย APCOcap
เพิ่ม CD4 อย่างไร
ประสบการณ์ผู้ติดเชื้อ HIV
|