มหัศจรรย์ เซลล์พิฆาต (killer T-cell) กระตุ้นภูมิคุ้มกัน สร้าง CD4
องค์การอนามัยโลก (WHO) และ ผู้เชี่ยวชาญด้าน HIV เอดส์ สรุปตรงกันว่า การเพิ่มขึ้นของ CD4 หรือ เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่มีหน้าที่ควบคุมและต่อสู้กับเชื้อโรค และมีบทบาทในการสร้างสารภูมิคุ้มกันในร่างกายเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของผู้ป่วยเอดส์มากกว่าการลดลงของจำนวนไวรัส HIV
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่คณะนักวิจัยคนไทยที่นำโดย ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา อดีตผู้ช่วยอธิการบดี คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และเจ้าของผลงานสารสกัดจากเปลือมังคุด สุตร GM-1 และ ศ.ดร.วัชระ กสิณฤกษ์ APCO Chair Professor และ นพ.นพพร พรพัฒนพรพันธุ์ ร่วมกันวิจัย APCO ซึ่งเป็นสารเสริมประสิทธิภาพจากมังคุด งาดำ ถั่วเหลือง ฝรั่ง และบัวบก และพบว่ามีส่วนช่วยในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพิ่มความสมดุลของเม็ดเลือดขาว ซึ่งสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) หน่วยงานในกำกับของกระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ได้มอบรางวัลให้กับงานวิจัยชิ้นนี้ ว่าเป็นนวัตกรรมของชาติไทยในการดูแลผู้มีปัญหาการติดเชื้อ
ศ.ดร.พิเชษฐ์ เล่าให้ฟังว่า คนไทยจำนวนมากเข้าใจว่าโรคเอดส์ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HIV ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตแต่ในความเป็นจริงผู้ป่วยเอดส์ที่เสียชีวิตเกิดจากการเป็นโรคฉวยโอกาสหลายชนิด ซึ่งโรคเหล่านี้เกิดจากไวรัส HIV เข้าไปทำลายเม็ดเลือดภูมิคุ้มกัน ที่เรียกว่า CD4 ให้ลดลงอย่างรวดเร็ว และไม่สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ ส่งผลให้ร่างกายขาดภูมิคุ้มกัน อ่อนแอ และรับเชื้อต่างเข้ามาได้ง่าย จนเสียชีวิตในที่สุด
"คณะวิจัย APCO พบว่า สารเสริมประสิทธิภาพจากผลไม้ไทยๆ โดยเฉพาะราชินีผลไม้อย่างมังคุด มีส่วนช่วยให้ CD4 ในผู้ติดเชื้อเอดส์เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ติดเชื้อมีภูมิคุ้มกัน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ" ศ.ดร.พิเชษฐ์บอก
ทั้งนี้ ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือ AIDS เป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส เอชไอวี ผู้ที่ป่วยจะมีการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง ติดเชื้อได้ทางการมีเพศสัมพันธ์ ทางเลือด เช่น การถ่ายเลือด การใช้เข็มฉีดยาที่ปนเปื้อน การสัก การเจาะหู ร่วมกับผู้ที่ติดเชื้อหรือการติดต่อจากมารดาที่ติดเชื้อสู่สทารก ตั้งแต่ระยะอยู่ในครรภ์ ระยะคลอด และระยะเลี้ยงดูหลังคลอด โดยทั่วไปโลกที่มีผู้ติดเชื้อ HIV ประมาณ 40 ล้านคน เด็ก 3 ล้านคน ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อ HIV เป็นผู้ใหญ่ประมาณ 5 ล้านคน เป็นเด็ก 200,000 คน ถือว่าเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อ HIV ต่อประชากรที่สูงที่สุดในเอเซีย คือประมาณ 1 ใน 100 คน และผู้ติดเชื้อใหม่อายุน้อยลงทุกปี
อดีตผู้ช่วยอธิการบดี คณบดีบัณฑิตวิทยาลัว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ บอกว่า เมื่อเชื้อ HIV เข้าสู่ร่างกาย จะไปฝังตัวในเม็ดเลือดขาวชนิด CD4+ (Th-cell) เพื่อแบ่งตัวเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ และทำลาย CD4+ (Th-Cell) จนมีจำนวนลดลงต่ำกว่า 350 เซลล์/ลบ.มม. ขณะที่ในคนปกติจะมี CD4+ 600-1,000 เซลล์/เลือด 1 ลบ.มม.ถือเป็นระดับภูมิคุ้มกันที่ต่ำมากในร่างกาย และผู้ติดเชื้อนี้ยังมีค่า Th1,Th2, Th17 และ Treg ในปริมาณที่ต่ำเช่นกัน โดยมี TH17 ต่ำที่สุด ส่งผลให้มีความเสื่องในการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อวัณโรค และเป็นมะเร็งได้ง่ายกว่าคนปกติ
"แนวทางการรักษาคือการหยุดยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส HIV โดยการใช้ยาต้านไวรัส ซึ่งมีอาจจะมีผลข้างเคียงจากการกลุ่มนี้ได้ เช่น เวียนศรีษะ อ่อนเพลีย ท้องเสีย ฝันร้ายใน 1-2 สัปดาห์แรก และเมื่อใช้ยาต้านไวรัสไปสักระยะหนึ่งก็อาจก็ให้เกิดการดื้อยาขึ้นได้ เนื่องจากในกระบวนการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส HIV มีโอกาสที่เชื้อตัวใหม่มีลักษณะที่ผิดเพี้ยนไปจากเชื้อตัวเดิม ยาต้านไวรัสเดิมที่เคยใช้อยู่จึงไม่ได้ผล มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นยาต้านไวรัสชนิดใหม่ไปเรื่อยๆ" ศ.ดร.พิเชษฐ์อธิบายและว่าจากข้อมูลทางภูมิคุ้มกันวิทยาพบว่า ภูมิคุ้มกันที่สมดุลขึ้นอยู่กับการทำหน้าที่อย่างสมดุลและเม็ดเลือดขาวทั้ง 4 ชนิด คือ 1.Th1 กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันจัดการกับสารก่อนภูมิแพ้และหนอนพยาธิได้ดีขึ้น 2.Th2 กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันจัดการกับสารก่อภูมิแพ้และหนอนดพยาธิได้ดีขึ้น 3.Th17 กระตุ้นให้ระบบภุมิคุ้มกันจัดการกับสิ่งแปลกปลอมทั้งหลายที่เหลือจากการจัดการของ Th1 และ Th12 4.Treag ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของ Th1,Th2 และ Th17 ให้อยู่ในระดับสมดุล จึงลดอาการแพ้ภุมิตัวเอง และข้อมูล โดยเฉพาะ Treg มีผลทำให้เชื้อไวรัส HIV แบ่งตัวช้าลง
สำหรับงานวิจัย Operation BIM (APCO) ซึ่งวิจัยและพัฒนา สารเสริมประสิทธิภาพจากสารมังคุด งาดำ ถั่วเหลือง ฝรั่ง และบัวบก จนได้แคปซูลเสริมอาหาร ที่พิสูจน์โดยศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์แล้วว่าสามารถกระตุ้นการทำงานของ Th1 เพิ่มขึ้น 2 เท่า กระตุ้น Th17 เพิ่มเป็น 5 เท่า และ Treg เพิ่มขึ้น 2 เท่า ล่าสุดยังพบว่า IL-9 ที่เพิ่มมากขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์สามารถเพิ่มความสามารถในการจัดการกับสิ่งแปลกปลอมโดยไม่มีผลข้างเคียง และข้อมูลเบื้องต้นของการทดสอบในผู้ที่ติดเชื้อเอดส์พบว่า ภายใน 1 เดือน ไม่พบการติดเชื้อรา ในช่องปาก และภายใน 2 เดือน ผู้ที่มี CD4+ ต่ำกว่า 100 เซลล์/ลบมม เพิ่มเป็น 300 เซลล์/ลบ.มม.
"สิ่งที่วิจัยได้ครั้งนี้ ได้พิสูจน์ในผู้ป่วยหลายราย ที่พบว่าผู้ป่วยเอดส์ที่เป็นเนื้อร้ายรุนแรงสามารถกลับมามีชีวิตปกติได้จากกาารเพิ่มอานุภาพของเม็ดเลือดขาว เซลล์ทีพิฆาต (killer T-cell) ให้จัดการเซลล์เนื้อร้ายจนควบคุมอาการเนื้อร้ายได้และพร้อมๆ กับการจัดการเชื้อ HIV จนคุณภาพชีวิตเหมือนคนปกติ ผลการตรวจเนื้อร้ายที่ตับทุก 3 เดือน เป็นเวลา 4 ปี พบว่าเซลล์เนื้อร้ายคงที่ ไม่ลุกลามไปมากกว่าเดิม รวมทั้งมีสุขภาพแข็งแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนอีกรายเป็นผู้ติดเชื้อ HIV ที่ตรวจพบว่าเป็นเนื้อร้ายร่วมด้วยหลายตำแหน่ง คือ สมอง ช่องท้อง และกระดูกสันหลัง ส่งผลให้ผู้ป่วยรายนี้ไม่สามารถลุกนั่ง ยืน หรือเดินได้ด้วยตัวเอง ต้องนอนติดเตียงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแพทย์ได้แจ้งกับญาติว่าผู้ป่วยน่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน เพราะเนื้อร้ายอยู่ในระยะลุกลามมากแล้ว แต่หลังจากได้รับสารสกัดจากงานวิจัยครั้งนี้ จำนวน 12 แคปซูลต่อวัน เป็นเวลา 8 เดือน พบว่า CD4 เพิ่มขึ้น จำนวนไวรัสลดลง เซลล์เนื้อร้ายในทุกๆ ตำแหน่งที่เป็นอยู่ไม่ลุกลาม "สร้างความประหลาดใจให้แก่แพทย์ที่ทำการรักษาเป็นอย่างมาก" เนื่องจากผู้ป่วยปฏิเสธการใช้รังสีรักษาและการทำเคมีบำบัดมาโดยตลอด
ล่าสุด ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทยื มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้สรุปการทดสอบประสิทธิภาพงานวิจัย Operation BIM ว่า สามารถเพิ่ม CD4 ได้ ขณะที่ยาต้านไวรัสสามารถลดปริมาณไวรัส HIV ในผู้ติดเชื้อลงได้ แต่มีผลข้างเคียงมาก และไม่สามรถเพิ่ม CD4 ได้รวดเร็ว หรือไม่เพิ่มเลยในบางราย
นอกจากนี้ งานวิจัยของ ศ.ดร.วัชระ กสิณฤกษ์ APCO Chair Professor และ นพ.นพพร พรพัฒนพรพันธุ์ พบว่า สารสดัดที่วิจัยได้สามารถกระตุ้นการเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาวชนิด CD4 Lymphocytes ในผู้ติดเชื้อ HIV หลังจากกิน APCO ติดต่อกัน 6-9 เดิอน จึงให้ผู้ติดเชื้อที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 27 ราย ได้รับงานวิจัย APCO ฟรี เพื่อดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องต่อโอกาสสำหรับผู้ติดเชื้อ
ปัจจุบันที่สามารถเพิ่ม CD4 Lymphocytes ในระดับเดียวกับกงานวิจัย APCO คือ Interlelukin2 ซึ่งเป็นยาฉีดที่มีราคาสูงหากใช้อย่างต่อเนื่อง 8 สับดาห์ จะมีค่าใช้จ่ายเฉพาะยาราว 700,000 บาท เทียบกับราคางานวิจัย APCO ปีละ 25,000-50,000 บาท (4-9 แคปซูล/วัน) ที่นอกจากจะเพิ่ม CD4 Lymphocytes แล้วยังมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากจากภูมิคุ้มกันที่สมดุลอีกด้วย ช่วยทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้อย่างขัดเจน
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ https://www.thairath.co.th/content/1278794
|