ไมเกรน (Migraines) เป็นอาการปวดศรีษะข้างเดียว หรือบางครั้งอาจจะปวดหัวทั้งสองข้างเลยก็ได้ เกิดจากการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ บริเวณบ่า คอ ท้ายทอย มีผลทำให้เลือดและออกซิเจนไหลเวียนขึ้นไปเลี้ยงที่ศรีษะไม่สะดวก
อาการของไมเกรน มีอาการปวดหัวรุนแรง ปวดตุบๆ มักจะปวดหัวข้างเดียว หรืออาจจะปวดสองข้างเลยก็ได้ กรณีที่ปวดหัวรุนแรงจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสียร่วมด้วย แสงสว่างมากหรือน้อย มีผลต่อการกระตุ้นอาการปวดหัวไมเกรนได้
อะไรบ้างที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน
► ความเครียด วิตกกังวล ตกใจ ซึมเศร้า
► การพักผ่อนน้อย อ่อนเพลีย นอนดึก
► การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนช่วงมีประจำเดือน หรือหมดประจำเดือน
► อาหาร เช่น ชา กาแฟ ผงชูรส ฯ
► ภาวะแสงสว่าง เสียง อากาศร้อนอบอ้าว อยู่ในภาวะที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นไมเกรน
- พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ทำสมาธิ
- ออกกำลังกายให้ต่อเนื่องสม่ำเสมอกัน อย่างน้ำยสับดาห์ละ 3 ครั้ง
ประสบการณ์ผู้ใช้bim100 ปัญหา ไมเกรน ปวดประจำเดือน และเอ็นข้อมืออักเสบ
หมายเหตุ "ผลลัพธ์อาจแตกต่างไปแล้วแต่บุคคล"
คุณสมบัติ จันทร์เห็ม ผู้มีปัญหาไมเกรน ปวดประจำเดือน และเอ็นข้อมืออักเสบ
ปวดไมเกรน ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นเดือน ละ 1-2 ครั้ง รู้สึก ปวดจี๊ดในศีรษะไล่ลงมาที่ท้ายทอย หันศีรษะซ้ายขวาไม่ได้เพราะจะอาเจียน และรู้สึกเหมือนเต้นตึ้บ ๆ ในศีรษะ หนักศีรษะข้างหนึ่งเบาข้างหนึ่ง บางทีรู้สึกตื้อ ๆ ทั้งวันจนอาเจียน บางครั้งก่อนไมเกรนกำเริบจะมีอาการนำมาก่อน เช่น ตาลายเห็นแสงวิบแว๊บเหมือนมีแสงหิ่งห้อยลอยอยู่ หรือเห็นเป็นอากาศสลัวครึ้มฟ้าครึ้มฝน อีก 15 นาทีต่อมาไมเกรนจึงกำเริบ และทุกเดือนปวดประจำเดือนมาก และเอ็นอักเสบที่ข้อมือขวามา 2 ปี เกร็งมือรู้สึกเจ็บแปลบเหมือนมีอะไรทิ่มเข้าหัวใจ นิ้วโป้งงอไม่ลง และต้องใส่เฝือกพยุงนิ้วโป้งไว้ ชม รายการสุข และสวย จึงเริ่มดูแลด้วยงานวิจัย Operation bim เมื่อ 4 ก.พ.56 อยู่ 2 วัน สังเกตว่าปวดประจำเดือนน้อยลง ตายังเห็นแสงวิบแว็บอยู่บ้างแต่ไม่ปวดศีรษะหลังจากไมเกรน และปวดประจำเดือนดีขึ้น จึงหันมาดูแลเอ็นอักเสบที่ข้อมือขวาแทน รู้สึกตัวอีกที อุ้มเด็ก ยกถังได้ นอกจากนี้งอขานั่งขัดสมาธิได้ และอาการเจ็บที่เอ็นร้อยหวายก็ไม่เป็นแล้ว ทุกวันนี้ ดูแลอย่างต่อเนื่องมา 1ปี ไมเกรนไม่กำเริบ และปวดประจำเดือนเหลือนิดเดียวค่ะ (สีเขียว เช้า 2 แคปซูล และเย็น 2 แคปซูล ต่อมาเปลี่ยนเป็นสีชมพู เช้า 2 แคปซูล และเย็น 2 แคปซูล ต่อมาเปลี่ยนเป็นสีชมพู เข้า 2 แคปซูล และสีเขียว เย็น 2 แคปซูล)
ผู้มีปัญหา ปวดหัวไมเกรน ปวดศรีษะ ปวดเบ้าตา
หมายเหตุ "ผลลัพธ์อาจแตกต่างไปแล้วแต่บุคคล"
คุณศศิมาวรรณ์ เวชศิลป์ ผู้มีปัญหาไมเกรน มือเท้าชา และออฟฟิค ซินโดรม
ทำงานหามรุ่งหามค่ำ และเครียดจนนอนไม่หลับ ส่งผลให้เป็นไมเกรนมา 2 ปี กำเริบเดือนละ 2-3 ครั้ง รู้สึกปวดจี๊ดตรงขมับซ้าย ท้ายทอย และเบ้าตาจนตาพร่ามัวมึนงง พะอีดพระอม บางครั้งปวดทั้งกระโหลกศรีษะ จนนอนไม่ได้ ตื่นเช้ามาลุกไม่ไหว เคยปวดหัวไมเกรนมาก 2-3 วัน จนมีไข้ขึ้นสูง ต่อมาหลังจากตื่นนอนรู้สึก มือขวาตั้งแต่ข้อศอกไปถึงนิ้วมือและเท้าขวาก็ชาตั้งแต่หัวเข่าไปถึงนิ้วเท้า หรือในบางครั้งก็เป็นตระคริว ถ้าช่วงไหนนั่งทำงานนาน ๆ รูสึกกล้ามเนื้อแข็ง และตึงตรงคอ บ่า ไหล่ ลงไปถึงขา คงจะเป็นอาการของออฟฟิคซินโดรม และในช่วง 4-5 ปี มานี้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 15 กก. ทำให้รู้สึกเจ็บตรงข้อเท้า หัวเข่า ทั้ง 2 ข้าง ตอนเดินขึ้นสะพานลอยและตอนที่เดินมาก ๆ อีกทั้งเดิน ๆ อยู่ขามักจะพลิกบ่อย ๆ เริ่มดูแลด้วย งานวิจัย Operation bim อย่างต่อเนื่องไม่ค่อยเพลีย ไม่ปวดศรีษะ ไม่เจ็บเบ้าตา และตาไม่พร่ามัว ความรุ้สึกมือเท้าชาลดลง ลืมเรืองเจ็บข้อเท้า และหัวเข่า ทุกวันนี้ ดูแลมา 9 เดือน อาการปวดหัวไมเกรนไม่กลับมา เดินไม่เจ็บข้อเท้า และไม่ปวด ไม่ตึงตามเนื้อตามตัว แต่วันไหนนอนดึกมาก ๆ ยังรู้สึกชามือเท้าอยู่บ้าง นอกจากปัญหาอาหารเป็นพิษที่ทำให้ท้องเสีย และกระเพาะปัสสาวะอักเสบที่เคยเป็นบ่อย ก็ไม่มีค่ะ (สีเขียว เช้า 2 แคปซูล และ เย็น 2 แคปซูล ต่อมาลดลงเหลือวันล่ะ 1-2 แคปซูล)
ผู้มีปัญหา ปวดหัวไมเกรน บ้านหมุน กระเพาะอาหาร
มีอาการปวดหัวไมเกรน บ้านหมุน กระเพาะอาหาร ระบบขับถ่ายไม่ดี
http://www.bim100-th17.com/bim100.html
คำค้นหา: ปวดหัวไมเกรน , ปวดประจำเดือน ,เอ็นข้อมืออักเสบ,ออฟฟิคซินโดม,งานวิจัย Operation bim,งานวิจัยAPCO,ปวดเบ้าตา,ปวดศรีษะ,bim100,ประสบการณ์ผู้ใช้bim100,อาการปวดหัวไมเกรน,อาการบ้านหมุน,
|